Loading...

ฟ้อง รพ.เอกชนชื่อดัง ตรวจเลือดผิดบอกติดHIV “รักษา 4 ปี สุดท้ายไม่ใช่” กับข้ออ้าง..ที่ฟังแล้วเหลือเชื่อสุดๆ!!!

นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา  ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ้คระบุถึงความผิดพลาดของโรงพยาบาลเอกชนชื...

นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา  ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ้คระบุถึงความผิดพลาดของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ทำการตรวจเลือดในห้องปฏิบัติการ แต่ตรวจผิดว่าผู้ป่วยติดเชื้อHIV จนนำไปสู่การฟ้องร้อง และในเบื้องต้นศาลได้ตัดสินว่าแพทย์มีความผิดต้องจ่ายค่าเสียหาย แต่ในส่วนของโรงพยาบาลนั้นกลับไม่มีความผิดใดๆ  เรื่องนี้สืบเนื่องจากมีผู้ป่วยมาร้องเรียนว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก รพ.เอกชนแห่งหนึ่งที่ตรวจเลือดผิดพบว่า เป็นเอชไอวี และรับประทานยาต้านไวรัสมาโดยตลอด จนมาทราบภายหลังว่า ไม่ใช่ ขณะที่แพทย์โรงพยาบาลนี้กลับให้คำตอบว่า เป็นเพราะร่างกายผู้ป่วยล้างเชื้อเอชไอวีได้เอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เลย จึงนำไปสู่การฟ้องร้อง ส่วนการวินิจฉัยที่ออกมาว่าเป็นความผิดแพทย์นั้น มองว่าเรื่องนี้เกี่ยวเนื่องกับผลแล็บที่ออกมา จึงถือเป็นความรับผิดชอบของโรงพยาบาลโดยตรงด้วย อย่างไรก็ตาม กรณีแพทย์นั้นเบื้องต้นได้หารือกับทางผู้เสียหายเห็นว่า ไม่ร้องต่อแพทยสภา เนื่องจากคงไม่มีประโยชน์

นางปรียนันท์ กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มาตรฐานการตรวจ มาตรฐานห้องแล็บเป็นอย่างไรกันแน่ ทั้งที่ผลแล็บเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อชีวิตของคนไข้ 

โดยเฉพาะเชื้อเอชไอวีที่รักษาไม่หาย เมื่อคนไข้รู้ผลย่อมเกิดความทุกข์และทรมานจิตใจ ไม่กล้าแม้แต่จะไปตรวจซ้ำที่อื่นเพราะอับอาย กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้จะเป็นรพ.เอกชนชื่อดังก็

ผิดพลาดได้ แต่เมื่อผิดพลาดแล้วกลับไม่มีความรับผิดชอบ ต้องให้ผู้เสียหายไปฟ้องศาลเอาเอง ซึ่งขณะนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งยังต้องสู้

กันต่อไปในชั้นอุทธรณ์และฎีกา ไม่รู้อีกกี่ปีจึงจะสิ้นสุด เฉพาะศาลชั้นต้นก็ 3 ปีกว่าแล้ว

ด้านผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกกับระบบเช่นนี้ เนื่องจากไปตรวจเลือดและพบว่าติดเชื้อเอชไอวี และเข้าใจเช่นนี้มาเป็นเวลา 4 ปี โดยไม่กล้าไปตรวจซ้ำที่อื่น ซึ่งตอนนั้นเพิ่งเลิกกับสามี ซึ่งค่อนข้างเจ้าชู้เลยเข้าใจว่าอาจติดจากสามีหรือไม่ แต่พอช่วงหลังๆ สังเกตอาการตัวเองแล้วทำไมถึงสุขภาพยังดีอยู่ จนมาตรวจกับแพทย์อีกท่านที่โรงพยาบาลเดิมกลับพบว่า ไม่มีเชื้อเอชไอวี และได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลว่า ร่างกายตนเองสามารถทำลายเชื้อเอชไอวี หากเป็นเช่นนั้นจริง ทั่วโลกคงมาเอาเลือดไปทำยาแล้ว ซึ่งรู้สึกว่าโรงพยาบาลปัดความรับผิดชอบมาก กรณีแบบนี้เป็นการละเมิดสิทธิอย่างมาก

ทีมา : http://www.plug-innews.com/2369

You Might Also Like

0 comments

Loading...